วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2561

โปรแกรม outlook express คือ

โปรแกรม outlook express คือ
Microsoft Outlook Express เป็นโปรแกรมอีเมฟรี พื้นฐาน คุณสามารถนำเข้าข้อความอีเมลและข้อมูลบัญชีผู้ใช้จาก Outlook Express ลงในMicrosoft Outlook
ใน Outlook Express แต่ละโฟลเดอร์จดหมายสอดคล้องกับไฟล์เดียว ตัวอย่าง โฟลเดอร์กล่องจดหมายเข้าใน Outlook Express คือ ไฟล์เดียว Inbox.dbx ในทางกลับกัน Outlook เก็บข้อความแต่ละเป็นไฟล์แต่ละรายการ ถ้า Outlook Express และ Outlook ถูกติดตั้งบนคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น คุณจำเป็นต้องทราบข้อมูลนี้เพื่อให้คุณสามารถค้นหา และคัดลอกโฟลเดอร์ที่ถูกต้องเมื่อต้องใช้
เมื่อต้องการนำเข้าข้อความอีเมล เลือกกระบวนงานโดยยึดตามว่า Outlook Express และ Outlook ติดตั้งอยู่ บนเดียวกัน หรือ บนคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น

Portable Document Format (PDF)

Portable Document Format (PDF) คือไฟล์ประเภทหนึ่งในถูกสร้างมาจากโปรแกรม Adobe Acrobat หรือโปรแกรมประเภท PDF Creater ตัวอื่นๆ เหมาะสำหรับการทำเอกสารตัวอย่างใบเสนอราคา, Manual, Sample Picture หรือเอกสารอื่นๆ ปัจจุบันเป็นที่นิยมมากในการทำ e-Document หรือ e-Paper ต่างๆ เนื่องจากไฟล์ที่ได้มีคุณภาพสูง ไม่ผิดเพี้ยนจากต้นฉบับ และผู้ที่นำไฟล์ PDF ไปใช้งาน ก็ไม่สามารถแก้ไขต้นฉบับของเราได้ด้วย ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีโปรแกรมออกมาใหม่ เพื่อที่จะแปลงไฟล์ PDF กลับไปเป็นไฟล์ในรูปแบบเดิมก็ตาม แต่จากการทดลองใช้งานแล้วพบว่า ใช้ได้กับเอกสารภาษาอังกฤษเท่านั้น สำหรับภาษาไทยยังไม่สามารถใช้งานได้ครับ นอกจากนี้ ยังรองรับการอ่านข้อมูลผ่านทาง web page ได้ด้วย

ประเภทของไฟล์ข้อมูล

ประเภทของไฟล์ข้อมูล
การดำเนินการข้อมูลสารสนเทศ ในส่วนของการค้นหา ค้นคืน ส่งผ่านหรือจัดเก็บจะมีรูปแบบของไฟล์ข้อมูลหลายประเภทด้วยกัน ส่วนใหญ่จะมีอยู่ ประเภท คือ
1.           1.     ไฟล์ PDF
2.           2.    ไฟล์ DOCX

3.           3.     ไฟล์ PPTX


            เอกสาร PDF (Portable Document Format) เป็นเอกสาร e-Book (Electronics Book) รูปแบบหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน โดยเฉพาะการนำเสนอผ่าน WWW โดยเป็นรูปแบบของเอกสารที่พัฒนาโดยhttp://www.adobe.com/products/acrobat/main.html เนื่องจากเอกสารลักษณะนี้ มีรูปแบบ และการจัดหน้ากระดาษ เหมือนเอกสารต้นฉบับทุกประการ มีขนาดไฟล์ไม่โตมากนัก ทำงานข้ามระบบ (Cross Platform) ได้ ทำให้เอกสารนี้เป็นอิสระจากซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และระบบปฏิบัติการ (OS) กล่าวคือ เอกสาร PDFสร้างได้ทั้งจากเครื่องคอมพิวเตอร์ระบบ Macintosh และ PC และสามารถเรียกดูร่วมกันได้นั่นเอง

การค้นหาไฟล์ภาพบนอินเตอร์เน็ต

การค้นหาไฟล์ภาพบนอินเตอร์เน็ต


ชนิดของไฟล์รูปภาพ ชนิดของไฟล์รูปภาพที่นิยมใช้โดยทั่วไป ได้แก่ BMP,GIF,JPG,TIFF,PNG เป็นต้น
1.1 BMP (Bitmap) ไฟล์ชนิด BMP เป็นไฟล์รูปภาพ Bitmap พื้นฐาน สามารถแสดงรายละเอียดสีได้ 24 บิต จึงเหมาะกับภาพกราฟฟิกส์ เช่น
ภาพการ์ตูน หรือภาพลายเส้น เป็นต้น

    1.2 GIF (Graphic Interchange Format) แสดงรายละเอียดสีได้ 256 สี สามารถใช้เป็นรูปภาพกราฟฟิกส์ได้ทุกระบบและ เก็บรายละเอียดสี
ได้ไม่เกิน บิต มีความละเอียดของจุดภาพ (Pixel) สูง เหมาะสำหรับรูปภาพที่มีจำนวนสีไม่มาก
 เช่น รูปการูตูน ลายเส้น โลโก้ เป็นต้น เหมาะสำหรับรูปที่ 
สร้างจากคอมพิวเตอร์รูปที่ไม่มีความลึก หรือมิติของรูปมากนัก ใช้สีในรูปไม่มากรูปจำพวกนี้ได้แก่ โลโก้ หรือตัวอักษร ถ้ารูปยิ่งใช้จำนวนสีน้อย ขนาดไฟล์ของ
รูปนามสกุล GIF ก็จะยิ่งเล็กลงไปด้วย ถ้าใช้สองสีไฟล์ก็ยิ่งมีขนาดเล็กมากๆ ไฟล์ GIF มีรูปแบบพิเศษกว่าไฟล์นามสกุลอื่น คือ ไฟล์รูปแบบโปร่งแสงหรือเรียกกัน
ว่า Transparent Image ( รูปที่ไม่มี Background เหมือนรูปบนแผ่นใส ) ไฟล์ GIF สามารถทำเป็นไฟล์ภาพเคลื่อนไหวแบบง่ายๆ หรือที่รู้จักกันว่า
Animation GIF มาจากการรวมไฟล์ GIF หลายรูปเข้าด้วยกัน

     1.3 JPG (Joint Photographics Expert Group) เก็บรายละเอียดสีได้ 24 บิต สามารถแสดงสีได้สูงสุดถึง 16.7 ล้านสี ทำให้ภาพที่แสดง
มีความคมชัดสูง ไฟล์ JPG เป็นไฟล์ที่มีการบีบอัดข้อมูลทำให้ขนาดของไฟล์เล็กลง ระดับการบีบอัดข้อมูลมี ระดับ คือ Low, Middle, Compress
เหมาะสำหรับรูปภาพ ที่มีรายละเอียดของสีจำนวนมาก เช่น ภาพคน ภาพธรรมชาติ เป็นต้น

    1.4 TIFF ได้รับการพัฒนาสำหรับภาพกราฟฟิกส์ที่มีรายละเอียดสูงถึง 48 บิต ไฟล์ TIFF มีการสูญเสียของข้อมูลน้อยมากเมื่อมีการบีบอัดไฟล์ข้อมูล

    1.5 PNG ไฟล์นามสกุล PNG ถูกตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะนำมาใช้แทนไฟล์ GIF แบบไม่เป็นทางการ เนื่องจากคุณสมบัติที่กำหนดให้สร้างขึ้นมา
เพื่อลบจุดด้อยของไฟล์ JPG และ GIF แต่สาเหตุที่ไฟล์รูปแบบนี้ ยังไม่เป็นที่แพร่หลาย นั้นเพราะว่ายังไม่มีโปรแกรมที่สนับสนุน ไฟล์นี้มากเท่าที่ควร
มีเพียงโปรแกรม Macromedia Firework

สื่อแบบไร้สาย

 สื่อแบบไร้สาย
                  เป็นสื่อกลางประเภทที่ไม่มีวัสดุใดๆในการนำสัญญาณแต่จะใช้อากาศเป็นสื่อกลาง ซึ่งจะไม่มีการกำหนดเส้นทางให้สัญญาณเดินทาง สื่อหรือตัวกลางประเภทไร้สายมีดังนี้
    ไมโครเวฟ  (Microwave) เป็นการสื่อสารโดยใช้คลื่นวิทยุความเร็วสูงสามารถส่งสัญญาณเป็นทอดๆ จากสถานีหนึ่งไปยังอีกสถานีหนึ่งใน แนวเส้นตรง ไม่สามารถโค้งหรือหักเลี้ยวได้ สามารถรับ ส่งได้ในระยะทางใกล้ๆ นิยมใช้สำหรับการสื่อสารระหว่างอาคารที่อยู่ในเมือง เดียวกัน หรือวิทยาเขตของมหาวิทยาลัย สำหรับระยะทางไกลๆ ต้องใช้สถานีรับส่งสัญญาณเป็นทอดๆโดยติดตั้งในพื้นที่สูง เช่น ยอดเขาหอคอย ตึก เป็นต้น โดยปกติความถี่ไมโครเวฟอยู่ในช่วงคลื่นอินฟราเรด ซึ่งนำมาใช้ประโยชน์ด้านโทรคมนาคมและการทำอาหาร

เส้นใยนำแสง (Fiber Optic)

 เส้นใยนำแสง (Fiber Optic) 
                เส้นใยนำแสง (Fiber Optic) มีแกนกลางของสายซึ่งประกอบด้วยเส้นใยแก้วหรือพลาสติกขนาดเล็กหลายๆ เส้นอยู่รวมกันเส้นใยแต่ละเส้นมีขนาดเล็กเท่าเส้นผมและภายในกลวง และเส้นใยเหล่านั้นได้รับการห่อหุ้มด้วยเส้นใยอีกชนิดหนึ่ง ก่อนจะหุ้มชั้นนอกสุดด้วยฉนวน การส่งข้อมูลผ่านทางสื่อกลางชนิดนี้จะแตกต่างจากชนิดอื่นๆ ซึ่งใช้สัญญาณไฟฟ้าในการส่ง แต่การทำงานของสื่อกลางชนิดนี้ จะใช้เลเซอร์วิ่งผ่านช่องกลวงของเส้นใยแต่ละเส้นและอาศัยหลักการหักเหของแสงโดยใช้ใยแก้วชั้นนอกเป็นกระจกสะท้อนแสง การให้แสงเคลื่อนที่ไปในท่อแก้วสามารถส่งข้อมูลด้วยอัตราความหนาแน่นของสัญญาณข้อมูลสูงมาก และไม่มีการก่อกวนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า  ปัจจุบัน ถ้าใช้เส้นใยนำแสงกับระบบอีเทอร์เน็ตจะใช้ได้ด้วยอัตราเร็วหลายร้อยเมกะบิต และเนื่องจากความสามารถในการส่งข้อมูลด้วยอัตราความหนาแน่นสูง ทำให้สามารถส่งข้อมูลทั้งตัวอักษร เสียง ภาพกราฟิก หรือวีดีทัศน์ได้ในเวลาเดียวกัน อีกทั้งยังมีความปลอดภัยในการส่งสูง แต่อย่างไรก็มีข้อเสียเนื่องจากการบิดงอสายสัญญาณจะทำให้เส้นใยหัก จึงไม่สามารถใช้สื่อกลางนี้ในการเดินทางตามมุมตึกได้ เส้นใยนำแสงมีลักษณะพิเศษที่ใช้สำหรับเชื่อมโยงแบบจุดไปจุด ดังนั้นจึงเหมาะที่จะใช้กับการเชื่อมโยงระหว่างอาคารกับอาคารหรือระหว่างเมืองกับเมือง เส้นใยนำแสงจึงถูกนำไปใช้เป็นสายแกนหลัก

สายโคแอกเชียล (coaxial)

สายโคแอกเชียล (coaxial)

                เป็นตัวกลางเชื่อมโยงที่มีลักษณะเช่นเดียวกับสายที่ต่อจากเสาอากาศ สายโคแอกเชียลที่ใช้ทั่วไปมี 2 ชนิด คือ 50 โอห์มซึ่งใช้ส่งข้อมูลแบบดิจิทัล และชนิด 75 โอห์มซึ่งใช้ส่งข้อมูลสัญญาณแอนะล็อก สายประกอบด้วยลวดทองแดงที่เป็นแกนหลักหนึ่งเส้นที่หุ้มด้วย  ฉนวนชั้นหนึ่ง เพื่อป้องกันกระแสไฟรั่ว จากนั้นจะหุ้มด้วยตัวนำซึ่งทำจากลวดทองแดงถักเป็นเปีย เพื่อป้องกันการรบกวนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและสัญญาณรบกวนอื่นๆ ก่อนจะหุ้มชั้นนอกสุดด้วยฉนวนพลาสติก ลวดทองแดงที่ถักเป็นเปียนี้เองเป็นส่วนหนึ่งที่ ทำให้สายแบบนี้มีช่วงความถี่สัญญาณไฟฟ้าสามารถผ่านได้สูงมาก และนิยมใช้เป็นช่องสื่อสารสัญญาณแอนะล็อกเชื่องโยงผ่านใต้ทะเลและ        ใต้ดิน

สายคู่บิดเกลียว

       สายคู่บิดเกลียว (Twisted pair) ประกอบด้วยเส้นลวดทองแดงที่หุ้มด้วยฉนวนพลาสติก 2 เส้นพันบิดเป็นเกลียว ทั้งนี้เพื่อลด การรบกวนจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากคู่สายข้างเคียงภายในสายเดียวกันหรือจากภายนอก เนื่องจากสายคู่บิดเกลียวนี้ยอมให้สัญญาณไฟฟ้าความถี่สูงผ่านได้ สำหรับอัตราการส่งข้อมูลผ่านสายคู่บิดเกลียวจะขึ้นอยู่กับความหนาของสายด้วย กล่าวคือสายทองแดงที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางกว้าง จะสามารถส่งสัญญาณไฟฟ้ากำลังแรงได้ ทำให้สามารถส่งข้อมูลด้วยอัตราส่งสูง โดยทั่วไปแล้วสำหรับการส่งข้อมูลแบบดิจิทัล สัญญาณที่ส่งเป็นลักษณะคลื่นสี่เหลี่ยม สายคู่บิดเกลียวสามารถใช้ส่งข้อมูลได้ถึงร้อยเมกะบิตต่อวินาทีในระยะทางไม่เกินร้อยเมตร เนื่องจากสายคู่บิดเกลียวมีราคาไม่แพงมาก ใช้ส่งข้อมูลได้ดีจึงมีการงานอย่างกว้างขวาง สายประเภทนี้มีด้วยกัน 2 ชนิดคือ
                สายคู่บิดเกลียวชนิดไม่หุ้มฉนวน (Unshielded Twisted Pair : UTP) เป็นสายคู่บิดเกลียวมีฉนวนชั้นนอกที่บางอีกชั้น ทำให้สะดวกในการโค้งงอ แต่สามารถป้องกันการรบกวนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้น้อยกว่าชนิดแรก แต่ก็มีราคาต่ำกว่า จึงนิยมใช้ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ในเครือข่าย ตัวอย่างของสายคู่บิดเกลียวชนิดไม่หุ้มฉนวนที่เห็นในชีวิตประจำวัน คือ สายโทรศัพท์ที่ใช้อยู่ในบ้าน

                 สายคู่บิดเกลียวชนิดหุ้มฉนวน (Shielded Twisted Pair : STP) เป็นสายคู่บิดเกลียวที่หุ้มด้วยลวดถักชั้นนอกที่หนาอีกชั้นเพื่อป้องกันการรบกวนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า(นิยมนำมาใช้เป็นสายโทรศัพท์)

สื่อที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูล

สื่อที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูล

 ในระบบเครือข่ายจะต้องมีสื่อที่ใช้ในการเชื่อมต่อสถานีงานต่างๆ ในเครือข่ายเข้าด้วยกัน เพื่อส่งข้อมูล ซึ่งสื่อเหล่านี้จะมีหลายแบบให้เลือกใช้ โดยแต่ละแบบเองก็จะมีจุดเด่นจุดด้อยแตกต่างกันออกไปตามแต่ว่าจะพิจารณาโดยยึดราคา หรือศักยภาพเป็นเกณฑ์
    สื่อแบบมีสาย
    สื่อกลางประเภทมีสาย หมายถึง สื่อกลางที่เป็นสายซึ่งใช้ในการเชื่อมโยงโดยอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อใช้ในการส่งผ่านข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ และอุปกรณ์ในระยะทางที่ห่างกันไม่มากนัก
    สายคู่บิดเกลียว (Twisted pair)

อุปกรณ์เครือข่าย

อุปกรณ์เครือข่าย
4.1 การ์ดเครือข่าย (Network  Adapter) หรือ การ์ด LAN


     เป็นอุปกรณ์ทำหน้าที่สื่อสารระหว่างเครื่องต่างกันได้ไม่จำเป็นต้องเป็นรุ่นหรือยี่ห้อเดียวกันแต่หากซื้อพร้อมๆกันก็แนะนำให้ซื้อรุ่นและยีห้อเดียวกันจะดีกว่า
และควรเป็น การ์ดแบบ PCI เพราะสามารถส่งข้อมูลได้เร็วกว่าแบบ ISAและเมนบอร์ดรุ่นใหม่ๆมักจะไม่มี Slot  ISA ควรเป็นการ์ดที่มีความเร็วเป็น 100 Mbps
ซึ่งจะมีราคามากกว่าการ์ดแบบ 10 Mbps ไม่มากนัก แต่ส่งขอมูลได้เร็วกว่า นอกจากนี้คุณควรคำหนึงถึงขั้วต่อหรือคอนเน็กเตอร์ของการ์ดด้วยโดยทั่วไปคอนเน็กเตอร์ ของการ์ด LAN จะมีหลายแบบ เช่น BNC , RJ-45 เป็นต้น ซึ่งคอนเน็กเตอร์แต่ละแบบก็จะใช้สายที่แตกต่างกัน

รูปแบบการเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สาย

รูปแบบการเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สาย

Peer-to-peer ( ad hoc mode )
        รูปแบบการเชื่อมต่อระบบแลนไร้สายแบบ Peer to Peer เป็นลักษณะ การเชื่อมต่อแบบโครงข่ายโดยตรงระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 2 เครื่องหรือมากกว่านั้น เป็นการใช้งานร่วมกันของ wireless adapter cards โดยไม่ได้มีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายแบบใช้สายเลย โดยที่เครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจะมีความเท่าเทียมกัน สามารถทำงานของตนเองได้และขอใช้บริการเครื่องอื่นได้ เหมาะสำหรับการนำมาใช้งานเพื่อจุดประสงค์ในด้านความรวดเร็วหรือติดตั้งได้ โดยง่ายเมื่อไม่มีโครงสร้างพื้นฐานที่จะรองรับ ยกตัวอย่างเช่น ในศูนย์ประชุม, หรือการประชุมที่จัดขึ้นนอกสถานที่ 


Client/server (Infrastructure mode) 

        ระบบเครือข่ายไร้สายแบบ Client / server หรือ Infrastructure mode เป็นลักษณะการรับส่งข้อมูลโดยอาศัย Access Point (AP) หรือเรียกว่า “Hot spot” ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างระบบเครือข่ายแบบใช้สายกับเครื่อง คอมพิวเตอร์ลูกข่าย (client) โดยจะกระจายสัญญาณคลื่นวิทยุเพื่อ รับ-ส่งข้อมูลเป็นรัศมีโดยรอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในรัศมีของ AP จะกลายเป็น เครือข่ายกลุ่มเดียวกันทันที โดยเครื่องคอมพิวเตอร์ จะสามารถติดต่อกัน หรือติดต่อกับ Server เพื่อแลกเปลี่ยนและค้นหาข้อมูลได้ โดยต้องติดต่อผ่านAP เท่านั้น ซึ่ง AP 1 จุด สามารถให้บริการเครื่องลูกข่ายได้ถึง 15-50 อุปกรณ์ ของเครื่องลูกข่าย เหมาะสำหรับการนำไปขยายเครือข่ายหรือใช้ร่วมกับระบบเครือข่ายแบบใช้สายเดิม ในออฟฟิต, ห้องสมุด หรือในห้องประชุม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มากขึ้น

เครือข่ายแลนไร้สาย

เครือข่ายแลนไร้สาย

แลนไร้สาย หรือ ไวเลสแลน (Wireless LAN, WLAN) คือระบบที่เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์เข้าเข้าด้วยกันเป็นเครือข่ายภายในพื้นที่แบบไร้ สาย โดยใช้คลื่นความถี่ วิทยุใน การเชื่อมต่อหรือสื่อสารกัน การเชื่อมต่อแลนไร้สายมีทั้งแบบเชื่อมต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยกัน และเชื่อมต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านอุปกรณ์กระจายสัญญาณ (Access Point)
        คำว่า ไวเลส (Wireless) คือ ไม่มีสาย ลองนึกภาพถึงแลนปกติที่เชื่อมต่อกันระหว่างคอมพิวเตอร์กับสวิตซ์ (Switch) หรือฮับ (Hub) ด้วยสายสัญญาณที่เรียกว่า สาย UTP แต่ไวเลส คือการเชื่อมต่อที่ไม่มีมีสายแลนนั่นเอง
        แลน (LAN or Local Area Network) คือระบบที่เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์เข้าเข้าด้วยกันเป็นเครือข่ายภายในพื้นที่ เช่นระบบแลนภายในบ้าน ในบริษัทหรือองค์กร ในมหาวิทยาลัย เป็นต้น
        มาตราฐานความเร็วของแลนไร้สาย ความเร็วที่ใช้ในการสื่อสารกันหรือเชื่อมต่อกัน มีมาตราฐานรองรับ เช่น IEEE 802.11a, b และ ซึ่งแต่ละมาตราฐานจะบอกถึงความเร็วและคลื่นความถี่ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร กัน เช่น
สำหรับมาตรฐาน IEEE 802.11a มีความเร็วสูงสุดที่ 54 Mbps ที่ความถี่ย่าน 5 GHz
สำหรับมาตรฐาน IEEE 802.11b มีความเร็วสูงสุดที่ 11 Mbps ที่ความถี่ย่าน 2.4 GHz
สำหรับมาตรฐาน IEEE 802.11g มีความเร็วสูงสุดที่ 54 Mbps ที่ความถี่ย่าน 2.4 GHz

ยกเลิกไดรว์ที่กำหนด

ยกเลิกไดรว์ที่กำหนด

ยกเลิกการเชื่อมต่อบัญชีของคุณ

หากต้องการหยุดซิงค์อย่างสมบูรณ์ คุณสามารถลงชื่อออกจากบัญชี
ในคอมพิวเตอร์ ให้คลิกสำรองและซิงค์ข้อมูล Backup and Sync
คลิกเพิ่มเติม เพิ่มเติม จากนั้น ค่ากำหนด
คลิกการตั้งค่า
คลิกยกเลิกการเชื่อมต่อบัญชี
คลิกยกเลิกการเชื่อมต่อ

การแมปไดรว์ในเครือข่าย

การแมปไดรว์ในเครือข่าย
ในขั้นตอนแรก ให้เราทำการคลิ๊ก Start Program แล้วเลือกเมนู run เลยครับ


เมื่อคลิ๊กเข้ามาแล้วให้เราทำการพิมพ์ชื่อเครื่องหรือหมายเลขไอพีแอดเดรส ของเครื่องเซิร์ฟเวอร์เลยครับ โดยมี \\ นำหน้าครับ



เช่น \\หมายเลขไอพีหรือชื่อเครื่อง 



ตัวอย่าง เครื่องเซิร์ฟเวอร์ชื่อ ServerShare มีไอพีแอดเดรสคือ 192.168.1.1



ให้พิมพ์ไปเลยครับ \\ServerShare หรือ \\192.168.1.1 ในกรณีใดกรณีหนึ่งไม่ได้ครับ





จากนั้น เมื่อเข้ามาได้แล้วก็จะพบกับหน้าจอล็อกอินครับ ให้เราใส่ชื่อ username และ password ที่ได้มาจากผู้ดูแลระบบครับ ในหน้านี้หากเรากรอก username และ password เรียบร้อยแล้ว ในช่องเล็กๆ ด้านล่างครับ หากติ๊กใส่เครื่องหมายถูกจะเป็นการ memory โดยถาวร หากไม่ใส่เครื่องหมายถูก เวลาที่เราเข้าใช้งานไดร์วทุกครั้งจะทำการถาม username และ password ตลอดครับ ก็แล้วแต่ว่าใครจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ (ในการใส่พาสเวิร์ดควรถามผู้ดูแลระบบด้วยว่า จำกัดจำนวนครั้งที่ใส่ผิดได้กี่ครั้งครับ)





เมื่อเราใส่ username และ password ได้อย่างถูกต้องแล้ว หน้าจอถัดมาก็จะเป็นการเข้ามาที่ไดร์วที่ทำการแชร์ได้แล้วครับ 



ขั้นตอนต่อไปเป็นการแมพไดร์วมาไว้ที่เครื่องเลยครับ ทำตามได้เลย
1. ก็อบปี้ Address ของ server เลยครับ




2. เลือกที่ Tool แล้วเลือกที่ Map Network Drive



3. จะมีหน้าจอมาให้เราทำการเลือกไดร์ว เลือกไดร์วที่ต้องการเลยครับ



4. จากนั้น นำข้อความ Address ของ server ที่เราทำการ copy มาเมื่อกี้ วางลงไปในช่อง โฟลเดอร์เลยครับ (ช่องที่ขีดสีดำ) โดยการกดปุ่ม Ctrl+v หรือไม่ก็คลิ๊กขวา แล้วก็ past เลยครับ



แล้วก็กดปุ่ม Finish ก็เป็นอันเสร็จสิ้นการ Map Network Drive แล้วครับ

เปิดแชร์เครื่องพิมพ์

เปิดแชร์เครื่องพิมพ์

สำหรับบทความนี้จะเป็นวิธีแชร์ปริ้นเตอร์ผ่านวงแลน จากเครื่องคอมพิวเตอร์ Windows 10 และ 8.1/ 7 ให้สามารถปริ้นจากคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นมาออกที่เครื่องปริ้นที่ได้เปิดแชร์ไว้ โดยแบบนี้จะประหยัดสั่งซื้อปริ้นเตอร์โดยไม่จำเป็น ตัวอย่างเช่น ปริ้นเตอร์ที่ใช้งานตามบ้าน และมาเครื่องคอมมากกว่า 1 เครื่อง โดยใช้อินเตอร์เน็ตผ่าน Router ตัวเดียวกัน ก็สามารถแชร์ออกมาใช้งานร่วมกันได้
การแชร์ปริ้นเตอร์ เป็นการแบ่งทรัพยากรเพื่อใช้งานร่วมกันกับคอมพิวเตอร์ (Computer) ในระบบเครือข่าย (Network) เดียวกัน โดยมีที่มีเครื่องหลักเป็นศูนย์กลางในเปิดแชร์เครื่องปริ้นเตอร์ให้คอมพิวเตอร์เครื่องอื่นที่อยู่ในเครือเดียวกันสามารถใช้งานได้ร่วมกัน โดยสามารถนำไปใช้ได้ทั้ง Windows 7 / Windows 8.1 / Windows 10
ปริ้นเตอร์ (Printer) เป็นอุปกรณ์ประเภท Output ของคอมพิวเตอร์ เพื่อปริ้นรายงาน ปริ้นรูปภาพ ปัจจุบันปริ้นเตอร์ถูกพัฒนาให้มีฟังก์ชันการใช้งานที่มากขึ้น โดยเพิ่มความสามารถอยู่ในเครื่องเดียวกับปริ้นเตอร์ เช่น สแกนเอกสารเข้าคอมพิวเตอร์ ทำสำเนาเอกสาร รับ-ส่งแฟกช์ ทั้งยังมีการเชื่อมต่อมากขึ้น เช่น Lan WiFi USB

เปิดแชร์ข้อมูลในเครื่อง

เปิดแชร์ข้อมูลในเครื่อง

  1. เปิด File explorer จากนั้นไปที่ Folder ที่ต้องการจะแชร์ แล้วให้ทำการคลิกขวาที่ Folder จากนั้นเลือก Properties
แชร์ไฟล์ windows 7
  1. จากนั้นจะเปิด File folder Properties เลือกแถบ “Sharing” แล้วคลิกที่ Advance sharing..
share-file-on-lan-windows-7 (3)
  1. ที่หน้าต่าง Advance Sharing ให้เลือกติ๊กถูกที่ช่อง (/) share this folder จากนั้นคลิกปุ่ม Permission
share-file-on-lan-windows-7 (4)
  1. แล้วจะได้หน้าต่าง Permission for File folder ซึ่งเป็นการ กําหนดสิทธิ์ เลือกกำหนดตามที่ต้องการ โดยมีรายละเอียดดังนี้

การสร้างเครือข่ายแลน

การสร้างเครือข่ายแลน
LAN คืออะไร LAN ย่อมาจาก Local Area Network คือระบบเครือข่าย แบบเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันในระยะจำกัด เช่น ในอาคารเดียวกัน หรือบริเวณเดียวกันที่สามารถลากสายถึงกันได้โดยตรง ส่วนมากจะใช้สายเคเบิ้ล หรือ ที่เรียกกันว่า สายแลน เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อ อัตราเร็วของเครือข่าย LAN อยู่ที่ระหวาง 1-100 Mbps ทั้งนี้ความเร็วขอมูลขึ้นอยู่กับ ตัวกลางสายส่งที่ใช้ เทคนิคการส่งสัญญาณ และข้อกำหนดของผู้ให้บริการเน็ตเวิร์ค

การเปิดดูหลายเว็บพร้อมกัน

การเปิดดูหลายเว็บพร้อมกัน
        สลับไปมาระหว่างหน้าต่างได้อย่างรวดเร็ว
กด Alt ค้างไว้ จากนั้นแตะ Tab จนกว่าคุณจะไปถึงหน้าต่างที่ต้องการเปิด

ดู 2 หน้าต่างพร้อมกัน

  1. ในหน้าต่างใดหน้าต่างหนึ่งที่คุณต้องการดู ให้คลิกขยายใหญ่สุดค้างไว้ Maximize window
  2. ลากไปที่ลูกศรซ้ายหรือขวา Window - dock leftWindow - dock right
  3. ทำซ้ำสำหรับหน้าต่างที่ 2
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้ทางลัด Alt + [ เพื่อย้ายไปทางซ้าย หรือ Alt + ] เพื่อย้ายไปทางขวาได้ด้วยเช่นกัน

เปิดและปิดหน้าต่างและแท็บ

  • เปิดหน้าต่างใหม่: กด Ctrl + n
  • เปิดแท็บใหม่: กด Ctrl + t
  • ปิดหน้าต่างหรือแท็บ: ที่ด้านขวาบน ให้คลิก "ปิด" ปิด
  • เปิดหน้าต่างหรือแท็บที่คุณปิดไปขึ้นมาใหม่: กด Ctrl + Shift + t

เปลี่ยนขนาดหน้าต่าง

  • ดูแบบเต็มหน้าจอ: ที่ด้านบนของแป้นพิมพ์ ให้กด "เต็มหน้าจอ" เต็มหน้าจอ (หรือ F4)
  • ขยายหน้าต่างให้ใหญ่สุด: ที่ด้านขวาบน ให้คลิก "ขยายใหญ่สุด" Maximize window
  • ย่อหน้าต่างให้เล็กสุด: ที่ด้านขวาบน ให้คลิก "ย่อเล็กสุด" Minimize window

จัดเรียงใหม่ ย้าย หรือตรึงแท็บ

คุณสามารถรวมแท็บที่เกี่ยวข้องไว้ด้วยกัน หรือย้ายแท็บเข้าหรือออกจากหน้าต่าง นอกจากนี้ หากมีหน้าเว็บที่คุณต้องการเปิดไว้ตลอด เช่น อีเมล คุณยังสามารถตรึงแท็บนั้นเพื่อให้หาได้ง่าย
  • จัดเรียงแท็บภายในหน้าต่างเดียวกันใหม่: ลากแท็บไปยังตำแหน่งอื่นตามแนวด้านบนของหน้าต่างเบราว์เซอร์
  • ย้ายแท็บไปยังหน้าต่างใหม่: คลิกและลากแท็บออกจากหน้าต่าง คุณสามารถทำให้แท็บที่ลากออกมาเป็นหน้าต่างใหม่ หรือลากไปไว้ในหน้าต่างอีกบานหนึ่ง
  • ตรึงแท็บให้อยู่กับที่: คลิกขวาที่แท็บแล้วเลือกตรึงแท็บ แท็บที่ถูกตรึงจะปรากฏทางด้านซ้ายของหน้าต่างเบราว์เซอร์ และจะมีขนาดเล็กล

โปรแกรม outlook express คือ

โปรแกรม outlook express คือ Microsoft Outlook Express เป็นโปรแกรมอีเมฟรี พื้นฐาน คุณสามารถนำเข้าข้อความอีเมลและข้อมูลบัญชีผู้ใช้จาก Outloo...